๑๘. พอได้แล้ว
จะเอาชนะกันไปถึงไหน ไม่เหนื่อยกันบ้างหรือไร
ทุกข์ใจยังไม่พอหรือ ต้องให้ตายกันไปข้างหนึ่งด้วยหรือ
ไม่เห็นความลำบากในการดำรงชีวิต
แค่ประคองให้อยู่รอด ก็เหนื่อยพอแรงแล้ว
ทำไมต้องแบกกิเลส ให้มันหนักมากขึ้น
พอได้แล้ว หยุดได้แล้ว พักได้แล้ว
พอกันที สำหรับการดิ้นรนเพื่อให้ได้มา
หยุดการมี มานะทิฏฐิ ถือตัวถือตน ตัวกูของกู
ทั้งหน้าตา เกียรติยศ เราเป็นแค่เม็ดทรายเล็กเล็ก
ตัวกูของกูทำให้เราหลงทาง สร้างนิสัยเสีย
ไปยึดหลักคำสอนของกิเลสมาร
สร้างความทุกข์ปนสุขปนเศร้า ตามคำสอนของมาร
ปลูกฝังเราด้วยสิ่งเลวร้าย ผลเราเป็นคนเลวร้ายไป
โชคดีเราได้พบคำสอนของพระพุทธเจ้า ชี้ให้เห็นความจริง
ได้สำนึกรู้ตัว เราช่างมัวหมอง ไร้คุณภาพ
รีบกลับตัวกลับใจ เดินตามองค์พระผู้มีพระภาคเจ้า
สร้างคุณธรรม เสริมบารมี ให้กับตัวเราให้มากมาก
ให้มีทุนมากพอ เพื่อไปดี หนีกิเลสมาร
กิเลสเกิดขึ้นที่ใจ ทิ้งกิเลส ก็ต้องทิ้งที่ใจ
อารมณ์สุข อารมณ์ทุกข์ ก็เกิดที่ใจทั้งหมด
จงบังคับใจ ควบคุมใจ ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ตั้งมั่นในแนวคำสอนของพระ ลดละสำเร็จได้ที่ใจ
ระวังจิตคนมันดัดยาก ต้องค่อยค่อยดัด อย่าร้อนรน
จิตเคยชินไปทางกิเลสแสนนาน รีบร้อนเดี๋ยวจะเสียงาน
สิ่งชั่วทางไม่ดี พระบอกเราแล้วหลายครั้ง
เราได้แค่รู้ แต่ยังทำชั่วเหมือนเดิม ซ้ำซ้ำแบบเดิม
เหมือนเราเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง สอนยาก น่าเบื่อหน่าย
เรื่องเดียวต้องซ้ำหลายครั้ง จนกว่าจะสำนึก
ตั้งใจ อดทน ปรับปรุง อย่าท้อ เดินหน้าไป
ไปได้ช้าดีกว่าไม่ไป ใช้เวลานาน ไม่เป็นไร
หมั่นเอาขยะตั้งไว้เบื้องหน้า ดูไว้ค่อยค่อยคิด คิดบ่อยบ่อย
ทุกสิ่งเป็นขยะหมด ความอยากได้ค่อยค่อยจางหายไป
ตั้งอภัยยกให้เสมอ ให้จิตอ่อนโยนพร้อมปล่อยวาง
อารมณ์ชอบ ไม่ชอบ ต้องระวังให้มาก อย่าเผลอ ให้รู้ตัวไว้
ทิฏฐิ ตัวกูของกู อันตราย หลงตัวเอง เผาใจเรา
เกียรติ ทำให้เรามีหน้ามีตา ถือตัวถือตน
คนโบราณ สร้างพระพุทธ ไม่มีหน้า ไม่มีตา เช่นพระนางพญา
ท่านสอนเตือนสติเรา ให้ลดเกียรติตัวเอง
อย่ายึดมั่นในหน้าตา สงบเสงี่ยมเจียมตัวไว้
คุมใจให้ได้ดั่งพระบอก รู้ตัวเตือนไว้เสมอ
ตั้งใจดีให้มั่นคง เรียนรู้ประสบการณ์ ให้เกิดความมั่นใจ
วันหนึ่งข้างหน้า การบำเพ็ญของเราก็สิ้นสุดลง
- Printer-friendly version
- แสดงความคิดเห็น
- 2318 reads